ติดต่อเรา

คำถามที่ถูกถามบ่อย!

1. หยดน้ำผึ้งลงบนกระดาษทิชชู ถ้าเป็นของปลอม หยดน้ำผึ้งจะขยาย ตัวเป็นวงกว้าง 2. เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ลงในน้ำชาจีนครึ่งแก้ว แล้วคนให้เข้ากัน ถ้าน้ำชาเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ แปลว่า เป็นน้ำผึ้งปลอม เพราะถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ น้ำชาต้องไม่เปลี่ยนสี 3. หยดน้ำผึ้งลงในน้ำ ถ้าเป็น น้ำผึ้งแท้จะกองเป็นก้อนก่อน แล้วจึงค่อยๆ ละลาย

ในกรณีที่หลายคนนั้นสงสัยว่าน้ำผึ้งที่กินทุกวันหรือเห็นขายตามร้านรวมไปถึงตามออนไลน์นั้นเป็นน้ำผึ้งแท้จริงไหม เพราะจะเห็นมีการวางขายกันทั่วไป ซึ่งน้ำผึ้งปลอมเป็นน้ำผึ้งที่ส่วนมากจะมีการตรวจสอบได้ว่าทำมาจาก “แบะแซ” ซึ่งแบะแซนี้จะมีลักษณะเป็นคล้าย ๆ กันกับน้ำผึ้ง ไม่ว่าจะเป็นด้วยสีและกลิ่นที่มีความคล้ายกันมาก ดังนั้นจึงทำให้หลายคนนั้นเผลอบริโภคลงไปโดยที่ไม่รู้ตัวนั่นเอง 

“นมผึ้ง” ของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนม รสหวาน มีกลิ่นเปรี้ยวเล็กน้อย เป็นอาหารหลักของผึ้งนางพญาและตัวอ่อนผึ้งเพื่อช่วยกระตุ้นในการเจริญเติบโต “นมผึ้ง” ยังถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแคปซูลทางยา-เครื่องสำอาง

พืชทุกชนิดใช้พลังงานมหาศาลในระหว่างการผลิตดอกไม้ ทำไม? เพราะมันจะขึ้นอยู่กับไม่เพียง แต่คนรุ่นอื่นอาจมีอยู่จริง แต่ยังรวมถึงการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดที่อาศัยอยู่ในโลกด้วย บางแบบเรียบง่ายกว่าแบบอื่น แต่ส่วนใหญ่มีโครงสร้างที่เรียกว่า เกสร.

ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว การใช้ขี้ผึ้งเป็นวิธีที่น่าอัศจรรย์ในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและมักพบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางค์  มันสามารถช่วยป้องกันและซ่อมแซมผิวที่หยาบกร้าน ผิวที่แห้งหรือแตกได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากมีความสามารถในการล็อคความชื้นให้ผิว  ในหนังสือ ” วิธีการใช้ขี้ผึ้งและน้ำผึ้งในการแก้ปัญหาผิว ” ผู้เขียน  อธิบายว่า ขี้ผึ้งนี้มีวิตามินเอที่อุดมไปด้วยคุณสมบัติมากมายและทำให้ผิวเรียบเนียนและช่วยให้ผิวนุ่มและคืนความชุ่มชื่นตลอดจนช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง   ขี้ผึ้งนอกจากจะเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติที่ใช้รักษาผิวแห้งแล้ว ยังสามารถใช้เป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยป้องกันผิวแห้งได้  เพียงแค่ผสมขี้ผึ้งกับน้ำมันอัลมอนด์หรือน้ำมันโจโจ้บา,น้ำมันวิตามินอีและว่านหางจระเข้เพียงไม่กี่หยอดก็สามารถเป็นสปาสำหรับคนผิวแห้งได้แล้วนั่นเอง

ผลึกของน้ำผึ้งที่เราเห็นเนี่ย ก็คือ เจ้าตัวน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่สำคัญ ที่ก่อให้เกิดการตกตะกอนแยกตัวจากน้ำผึ้งค่ะ ซึ่งถ้าในน้ำผึ้งของเรามีน้ำตาลกลูโคสมาก และมีน้ำน้อย ก็จะทำให้การตกผลึกเกิดขึ้นเร็วนั่นเองค่ะ การเก็บน้ำผึ้งไว้ในอุณหภูมิ 13 – 14 องศา เซลเซียส น้ำผึ้งก็จะเกิดการตกผลึกได้เร็วเช่นกันนะคะ สารชักนำอื่นๆที่อยู่ในน้ำผึ้งก็มีผลนะคะ เช่น ละอองเกสรดอกไม้ที่แขวนลอยอยู่นั้น พออุณหภูมิลดลงก็สามารถทำให้เกิดการตกผลึกได้ค่ะ ในต่างประเทศหลายประเทศก็พบน้ำผึ้งตกผลึกเหมือนกันนะคะ และก็มีความนิยมในการซื้อบริโภคและจำหน่ายน้ำผึ้งตกผลึกกันอย่างแพร่หลายเลยล่ะค่ะ หรือใครยังไม่แน่ใจเนี่ยก็สามารถเช็คผลึกของน้ำผึ้งได้นะคะ ซึ่งเจ้าตัวผลึกของน้ำผึ้งแท้ จะเล็กละเอียด ฟูนุ่ม ไม่แข็งค่ะ เมื่อนำมาหยดลงบนนิ้วของเราแล้วใช้นิ้วประกบและคลึง ก็จะละลายง่าย ซึ่งถ้าเป็นผลึกของน้ำตาลก็จะละลายยาก และแข็งกว่าค่ะ

แล้วยังนำกลับมากินได้ไหม??

            ขอตอบว่า! น้ำผึ้งที่ตกผลึก ยังคงสามารถรับประทานได้ตามปกติค่าาา หรือใครที่ไม่ชอบนำไปกิน หรือใช้ตอนที่ยังตกผลึกอยู่ ก็สามารถนำน้ำผึ้งไปอุ่นในอุณหภูมิไม่เกิน 40 องศา เพื่อให้ผลึกละลายก็ได้ค่ะ รู้แบบนี้แล้ว หันไปเจอน้ำผึ้งที่บ้านตกผลึก ก็อย่าพึ่งตกใจกันนะคะ เพราะว่าน้ำผึ้งแท้ 100 % ก็ตกผลึกได้ค่าา 

購物車